นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เผย ครึ่งปีหลัง พร้อมลุยประมูลงานใหม่ อวด Backlog อีก 1,600 ลบ. หนุนผลงานโตแกร่งไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ด้าน Q2/62 โชว์กำไรเติบโตเกือบ 124% หรือ 22 ล้านบาท หลังได้รับงานใหม่ ทั้ง One Bangkok โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
- STI มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) 1,600 ล้านบาท ทั้งงานโครงการ Mixed-Use คอนโดมิเนียม อาคารอเนกประสงค์ และอื่นๆ สนับสนุนผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังให้เติบโตโดดเด่น พร้อมทั้งเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีก ตามการขยายตัวของงานโครงการทั้งภาครัฐบาลและเอกชน สนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตแข็งแกร่งไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า มั่นใจ ภาพรวมรายได้ทั้งปี 2562 จะเติบโตก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 631 ล้านบาท กำไรสุทธิ 73 ล้านบาท
- ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 2/2562 กลุ่ม STI มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 22.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 123.7 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 และมีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 12.5 ในไตรมาสที่ 2/2562 ซึ่งสูงกว่าอัตรากำไรสุทธิในงวดเดียวกันของปี 2561 ที่มีอัตราร้อยละ 6.3 กำไรที่เติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจ สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณงานที่มีกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และจากการบริหารจัดการต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่ดีขึ้น
- รายได้จากการให้บริการรวมอยู่ที่ 172.1 ล้านบาท เติบโต 14.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างจำนวน 12.6 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณงานที่ให้บริการ เช่น โครงการ One Bangkok และโครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และโครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมีจำนวนเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น เช่น งานโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนตามการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
“ผลงานไตรมาส 2 ทำนิวไฮต่อเนื่อง กำไรสุทธิเติบโตสูงถึงร้อยละ 124 เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 2/2561 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2562 แม้จะมีการบันทึกสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานเพิ่มเติมจำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายจ่ายครั้งเดียวและไม่ใช่รายการเงินสด ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที 7) พ.ศ. 2562 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมาก ทั้งในด้านของรายได้และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จกรณีที่ไม่รวมการบันทึกสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานดังกล่าว ในไตรมาส 2 ปีนี้ กลุ่ม STI จะมีกำไรสุทธิจำนวน 30.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 203.4 ” นายสมเกียรติ กล่าว
- ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 กลุ่ม STI มีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 40.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 247 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 และมีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 12.2 มีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 326 ล้านบาท เติบโต 49 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -15 ส.ค. 62