"สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์"ลงสนามเทรดเอ็ม เอ ไอวันแรก(19 ธ.ค.) มั่นใจราคาหุ้นเหนือจอง ชูจุดเด่นหุ้น Growth Stock ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบจ. และลักษณะธุรกิจโดดเด่นต่างจากคู่แข่ง รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นแข็งแกร่ง โชว์งานในมือ 770 ล้านบาท รองรับรายได้อีก 3 ปี แย้มเตรียมศึกษาขยายธุรกิจงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมก่อสร้างในกลุ่มประเทศเออีซี
***ลั่น!เทรดวันแรกเหนือจอง
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เผย มั่นใจเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอวันแรกราคาหุ้นยืนเหนือราคาไอพีโอที่ 6.30 บาท จากพื้นฐานธุรกิจแกร่ง จากลักษณะงานที่แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น งานออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมจากลูกค้าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ รวมถึงงานอนุรักษ์โบราณสถาน
ขณะที่หลังไอพีโอกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังมีความแข็งแกร่ง นำโดยผู้ถือหุ้นเดิมที่เป็นกรรมการ, ผู้บริหารระดับสูง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 48.81% และบริษัท ยูนิเวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV ถือหุ้นในสัดส่วน 26.12% ขณะที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย 25.07%
***ชูจุดเด่นโกรทสต็อก โชว์งานในมือ 770 ลบ.
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ทั้งหมด 114 โครงการ คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ 770.09 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/61 ไปถึง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งปัจจุบันถือว่าธุรกิจมีการเติบโตสูงตามอุตสาหกรรมขยายตัว ทำให้มีโอกาสเข้ารับงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยคาดผลประกอบการปี 61 จะเป็นปีที่มีผลประกอบการดีสุดของกลุ่ม
ซึ่งในช่วง 9 เดือนปีนี้(ม.ค. - ก.ย.61)มีรายได้อยู่ที่ 444 ล้านบาท โตถึง 28.31% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 30.48 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง เช่นโครงการ One Bangkok และ โครงการ The PARQ
โดยเชื่อว่า STI เป็นหุ้นโกรทสต็อกที่น่าจับตา ทั้งฐานการเงินที่แข็งแกร่ง และมีการลงทุนในทรัพย์สินขนาดใหญ่ไม่มากนักทำให้ไม่มีความเสี่ยง เพราะส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในบุคลากร นอกจากนี้อยู่ระหว่างขยายกิจการเพื่อรองรับงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมก่อสร้างในกลุ่มประเทศเออีซีต่อไป
***แย้มลูกค้าหลักเป็นบริษัทจดทะเบียน
ภาวะอุตสาหกรรมของ STI ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการกระจายรายได้ออกไปหลายธุรกิจ โดยเฉพาะโครงการแนวสูงและอสังหาริมทรัพย์แบบผสม(Mix-Used) ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก
***เตรียมนำเงินระดมทุนตั้งศูนย์อบรม - ซื้อกิจการ
นายสมเกียรติ เผยต่อว่า จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ราว 400 ล้านบาท ไปใช้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทักษะความรู้ พนักงาน ลงทุนอุปกรณ์ ระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีใหม่ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างศึกษาเข้าลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ในช่วง 2 - 3 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มการเติบโตในอนาคต
***TQM ต่อแถวเทรด SET 20 ธ.ค.นี้
ขณะที่บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ด้วยราคาไอพีโอ 23 บาท หรือคิดเป็น P/E 20.9 เท่า จำนวนหุ้นไอพีโอทั้งหมด 75 ล้านหุ้น หลังเปิดจองซื้อหุ้นนักลงทุ่นของซื้อหุ้นล้นหลาม เชื่อเข้าเทรดผลตอบรับดี
แหล่งที่มา : สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย