STI ร้อนแรงยันท้ายปี ปิดดีลงานสำรวจและออกแบบ 4 โครงการ
ตุนแบ็คล็อกส่งต่อปีหน้า
“บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ หรือ STI” ไม่มีแผ่ว ปิดปี 65 แบบสุดปัง ชิงงานสำรวจและออกแบบ เข้าพอร์ตเพิ่มอีก 4 โครงการ หนุนแบ็คล็อกสิ้นปีนี้ พร้อมส่งต่อปีเถาะแบบร้อนแรง ลุยงานตั้งแต่ต้นปี แย้มปี 66 โครงการขนาดใหญ่จ่อรอประมูลอีกเพียบ
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เผยความสำเร็จส่งท้ายปี 2565 เดินหน้าคว้างานใหญ่ระดับประเทศ โดยล่าสุด บริษัท เอเชี่ยนเอ็นจิเนี่ยริ่ง จำกัด (AEC) (บริษัทในกลุ่ม) ประกาศลงนามคว้างานด้านศึกษาความเหมาะสม สำรวจ และออกแบบ รวดเดียว 4 โครงการ ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในงานโครงสร้างพื้นฐานที่กระจายอยู่เกือบครอบคลุมทุกภูมิภาค ได้แก่
1. การศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น การพัฒนาระบบโครงข่ายทางหลวง เชื่อมต่อสถานีรถไฟทางคู่แนวใหม่ สายบ้านไผ่ – นครพนม
2. โครงการศึกษาความเหมาะสมและสำรวจออกแบบ ถนนเลี่ยงเมืองนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา
3. โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบสะพานปากนายข้ามเขื่อนสิริกิติ์ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ - อ.นาหมื่น จ.น่าน
4. โครงการจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 212 ตอน บ.ห้วยก้านเหลือง - ต.ดงบัง เป็นต้น
สำหรับ งานด้านศึกษาความเหมาะสม สำรวจ และออกแบบสถาปัตยกรรม ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านภูมิศาสตร์ ในการคำนวณเพื่อก่อสร้างงานให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ ที่ต้องมีการสำรวจและวิเคราะห์ทางด้านวิศวกรรมอย่างละเอียด รวมทั้งมีการรับฟังความคิดเห็นจากการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อนำข้อคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาอย่างเหมาะสม และมองถึงผลกระทบด้านการจราจรบนทางหลวงในอนาคต รวมถึง โครงข่ายการเชื่อมต่อขนส่งต่างๆ เพื่อสร้างการจราจรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ลดผลกระทบต่อชุมชน สภาพแวดล้อมในพื้นที่โครงการ และวิธีการก่อสร้าง เพื่อให้งานดำเนินออกมาได้อย่างตามกฏระเบียบ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า กลุ่ม STI เรามุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างและงานออกแบบ ที่ให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยด้วยมาตรฐานสากล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจ ทำให้ในปี 2565 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จ ในการได้รับความไว้วางใจให้ดูแลโครงการเมกะโปรเจ็กต์ระดับประเทศ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม สำหรับปี 2566 ทิศทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวเต็มกำลัง งานโครงการขนาดใหญ่ทยอยเปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง กลุ่มบริษัทมีความพร้อมที่จะเสนองานโครงการต่างๆ และสร้างการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้