"STI จ่อบุ๊กรายได้ 4.2 พันล. รอประมูลเมกะโปรเจ็กต์"
STI ส่งสัญญาณผลงานโค้งแรกสดใส ตุนแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้แน่น 4.2 พันล้านบาท ทยอยบุ๊กเงินตามแผน บอสใหญ่ “สมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์” สั่งเกาะติดงานอู่ตะเภา มูลค่าหลักพันล้านบาท คาดในไตรมาส 2/64 ชัดเจน พร้อมลุยงานเติมพอร์ตเพิ่ม ชูธงรายได้ปีนี้โตทะลุ 20%
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI ผู้นำกลุ่มธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทประเมินทิศทางผลประกอบการไตรมาส 1/2564 จะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพราะบริษัทมีงานในมือรอส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ ในสัดส่วน 74% และเอกชน 26% หรือคิดเป็นราว 200 โครงการ และบริษัทยังสามารถส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ตามแผน
ขณะเดียวกันบริษัทมองทิศทางต่อจากนี้จะมีงานโครงการขนาดใหญ่ออกมา โดยประเมินว่าในไตรมาส 2/2564 จะมีเมกะโปรเจ็กต์ออกมา เช่น งานอู่ตะเภา เบื้องต้นคาดมูลค่างานจะอยู่ในหลักพันล้านบาท
บุ๊กงานตามแผน
“ไตรมาสแรกเรายังมั่นใจผลงานน่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพราะยังส่งมอบงานให้กับลูกค้าได้ตามแผน โดยงานที่เกิดขึ้นและรับรู้รายได้ในปีนี้คืองานที่ราสั่งสมมาใน 1-2 ปีก่อน ส่วนงานที่เรารับเข้ามาในปีนี้จะเป็นงานในอนาคต ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เช่น รัฐประหาร หรือเหตุการณ์ต้มยำกุ้ง ภาพการรับรู้รายได้ หรือการทำงานยังดำเนินการไปตามปกติ”นายสมเกียรติ กล่าว
ล่าสุด บริษัทเพิ่งได้รับงานบริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร, โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ รวมมูลค่า 142 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
ขณะที่ บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC เป็นบริษัทในกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในงานโครงสร้างพื้นฐาน เข้ามาเสริมทัพในการคว้างานใหม่ และรับรู้ผลการดำเนินงานรวมกันเต็มปีเป็นปีแรก ทั้งนี้งานโครงสร้างพื้นฐานยังมีงานออกมา เช่น งานลู่ งานราง งานล้อรถไฟฟ้าเป็นต้น
รายได้ทะลุ 20%
นอกจากนี้ยังมีงานภาคเอกชนที่ STI มีความเชี่ยวชาญทางด้านงานอาคาร และมีประสบการณ์ในโครงการขนาดใหญ่มีชื่อเสียงมากมาย รวมถึงโครงการของบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นบริษัทจึงประเมินเป้าหมายรายได้รวมปี 2564 จะเติบโตได้มากกว่าปีก่อน โดยบริษัทมองอัตราการเติบโตปีนี้มากกว่า 20% หรือมีรายได้แตะระดับ 1.9 พันล้านบาท จากปีก่อนที่ 1.57 พันล้านบาท
ล่าสุด ผลประกอบการประจำปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการจำนวน 1,570.3 ล้านบาท เติบโต 120.5% มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท 149.2 ล้านบาท เติบโต 74.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด (AEC) และสนับสนุนให้มีการรับรู้รายได้ของ AEC เข้ามาเพิ่มเติมระหว่างเดือน พฤษภาคม-ธันวาคม 2563 เป็นต้นมา และปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึง การทยอยส่งมอบงานตามแผน