“สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์” ชนะประมูล “โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่”
หนุน Backlog ในมือแข็งแกร่ง
สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) ผู้นำในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ประกาศคว้างานใหม่ “โครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่” อาคารสูง 21 ชั้น ย่านเจริญนคร มูลค่าคุมงาน 142 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นในธุรกิจ และเสริมงานในมือแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่เต็มพอร์ต แย้มอยู่ระหว่างลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง หนุนปี 64 จะเป็นอีกปีทองธุรกิจ
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ชนะประกวดราคางานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทยแห่งใหม่ จากกระทรวงมหาดไทย โดยเสนอราคา 142,000,000 บาท ตอกย้ำความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำตลาด และเสริมแกร่งผลงานปี 2564 สนับสนุนงานในมือ (Backlog) เติบโตต่อเนื่อง
โดยโครงการศูนย์ราชการกระทรวงมหาดไทย ออกแบบไว้เป็นอาคารหลังเดียวมีพื้นที่รวม 215,000 ตารางเมตร ลักษณะตัวอาคารมีความสูง 21 ชั้น มีชั้นใต้ดินสำหรับจอดรถยนต์ 3 ชั้น เป็นที่ตั้งของส่วนราชการ 6 แห่ง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวง, กรมการปกครอง, กรมที่ดิน, กรมการพัฒนาชุมชน, กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดังนั้น การได้รับงานในครั้งนี้ ยิ่งสะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัทฯ และเป็นโอกาสขยายงานในโครงการขนาดใหญ่อื่นๆ เพิ่มเติม
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่ปรึกษาบริหาร คุมงานก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ ทั้งจากภาครัฐบาลและเอกชน อาทิ โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน C , งานสวนป่า "เบญจกิติ" ระยะที่ 2-3 , โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ , โครงการ One Bangkok เป็นต้น และมั่นใจว่าในปีนี้จะยังเดินหน้าลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่องทั้งปี โดยมี บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด หรือ AEC ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม เสริมความแข็งแกร่ง สนับสนุนเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่วางไว้จะเติบโต 20% จากปีก่อน ตามที่วางไว้
สำหรับผลประกอบการล่าสุดในปี 2563 ทำสถิติสูงสุดใหม่ บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 1,570.3 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 120.5% มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ อยู่ที่ 149.2 ล้านบาท เพิ่ม 74.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน