"สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์" คว้างานที่ปรึกษาคุมงาน
“โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร”
"สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์" หรือ STI คว้างานใหญ่รับเปิดศักราชปีฉลู ร่วมพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้ง STI เป็นที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง ให้แก่ “โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร” สะท้อนความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรม และสนับสนุนงานในมือปี 64 ยังแข็งแกร่ง และเติบโตต่อเนื่อง
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง “โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร” เพื่อก่อสร้างที่ทำการสภาวิศวกรเป็นของตนเอง บนที่ดินแปลงติดถนนลาดพร้าว บริเวณปากซอยลาดพร้าว 54 เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร
โครงการประกอบด้วยการก่อสร้างอาคาร 2 หลัง ได้แก่ อาคารที่ทำการสภาวิศวกร 1 หลัง และอาคารจอดรถยนต์ 1 หลัง โดยอาคารที่ทำการเป็นอาคารคอนกรีตสูง 7 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 9,000 ตารางเมตร นอกจากจะจัดให้เป็นสำนักงานแล้ว ยังจัดให้มีพื้นที่ใช้สอยอื่นด้วย เช่น เป็นห้องสมุด ห้องประชุม มีพื้นที่พาณิชย์และพื้นที่เช่าของสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ส่วนอาคารจอดรถยนต์เป็นอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ใช้ระบบจอดรถยนต์อัตโนมัติ
ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนในการออกแบบได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เพื่อมุ่งหวังให้อาคารหลังนี้มีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นเป็นภูมิสัญลักษณ์ หรือ Landmark แห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยจะเริ่มการก่อสร้างโครงสร้างอาคารที่ทำการ สภาวิศวกรได้ดำเนินการคัดเลือกให้ บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เป็นที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง โดยมี บริษัท สยาม มัลติ คอน จำกัด เป็นผู้รับจ้างเหมาก่อสร้าง คาดจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2565
ล่าสุด ในงานพิธีลงนามสัญญาที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง กับงานจ้างเหมาก่อสร้าง “โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร” โดยมี ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) และ นายพรอุดม โชติมโนธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม มัลติ คอน จำกัด ร่วมลงนามและถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก
“นับเป็นความภาคภูมิใจที่สภาวิศวกรไว้วางใจให้สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ เป็นที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสภาวิศวกร เพื่อให้สำเร็จลุล่วงตามแผนงานที่วางไว้ อย่างไรก็ดี ภาพรวมธุรกิจในปีนี้ของกลุ่มบริษัทยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง งานในมือที่ยังแข็งแกร่ง จากงานโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาคเอกชน และภาครัฐ ที่เดินหน้าทยอยส่งมอบตามแผน” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย